Lo
Lo2025-05-01 07:44

ประกันพารามิตรแตกต่างจากรูปแบบที่เป็นที่นิยมอย่างไร?

ความแตกต่างระหว่างประกันพาราเมตริกกับแบบดั้งเดิม

การเข้าใจความแตกต่างหลักระหว่างประกันพาราเมตริกและประกันแบบดั้งเดิมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงสมัยใหม่ แม้ว่าทั้งสองแบบจะมีเป้าหมายเพื่อปกป้องบุคคลและองค์กรจากความสูญเสียทางการเงิน แต่กลไก กระบวนการจ่ายเงิน และหลักการพื้นฐานของแต่ละแบบมีความแตกต่างอย่างมาก บทความนี้จะสำรวจข้อแตกต่างเหล่านี้เพื่อให้ภาพรวมที่ชัดเจนว่าประกันพาราเมตริกกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างไร

ประกันแบบดั้งเดิมคืออะไร?

ประกันแบบดั้งเดิมดำเนินงานบนโมเดลเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะยื่นคำร้องเมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญเสีย จากนั้นบริษัทประกันจะทำการตรวจสอบความถูกต้องของคำร้อง กำหนดขอบเขตของความเสียหาย และคำนวณค่าชดเชยตามนั้น กระบวนการนี้มักเกี่ยวข้องกับการสอบสวนรายละเอียด เอกสารประกอบ และบางครั้งอาจใช้เวลานานก่อนที่จะจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่น ประกันทรัพย์สินสำหรับไฟไหม้ หรือประกันรถยนต์สำหรับอุบัติเหตุ

เป้าหมายหลักคือ การชำระคืนตามจำนวนจริงของความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งให้บริการครอบคลุมเฉพาะบุคคลตามสถานการณ์ แต่ก็สามารถใช้เวลานานเนื่องจากกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อมูล

วิธีทำงานของประกันพาราเมตริก

ในทางตรงข้าม ประกันพาราเมตริกนำเสนอแนวทางที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ซึ่งตั้งอยู่บนเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แทนที่จะขึ้นอยู่กับความเสียหายจริง เช่น ลมแรงเกิน 100 ไมล์ต่อชั่วโมงในช่วงเฮอร์ริเคน หรือน้ำท่วมสูงถึงระดับหนึ่ง ระบบนี้จ่ายเงินเมื่อเงื่อนไขหรือเกณฑ์เฉพาะถูกกระทำ—โดยไม่สนใจว่าความเสียหายจริงเป็นเท่าใด

กลไกนี้อาศัยเทคโนโลยีในการรวบรวมข้อมูล เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม เซ็นเซอร์ IoT และโมเดลสภาพอากาศ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เมื่อเหตุการณ์ตรงตามเกณฑ์เหล่านี้ การจ่ายเงินจะถูกเริ่มต้นโดยอัตโนมัติผ่านสมาร์ทคอนแทร็กต์หรือกระบวนการอัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอดูผลกระทบด้านความเสียหาย

ความแตกต่างสำคัญระหว่างประกันพาราเมตริกและแบบดั้งเดิม

  • กลไกเปิดใช้งาน:

    • แบบดั้งเดิม: อิงจากคำร้องที่ได้รับการตรวจสอบแล้วหลังจากเกิดเหตุ
    • พาราเมตริก: อิงจากเงื่อนไขหรือเกณฑ์ที่กำหนดยังไม่ได้รับผลกระทบ
  • กระบวนการเรียกร้อง:

    • แบบดั้งเดิม: ต้องผ่านขั้นตอนละเอียดและพิสูจน์ข้อมูล
    • พาราเมตริก: เป็นระบบอัตโนมัติและรวบรัด; ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ความเสียหาย
  • เวลาการจ่ายเงิน:

    • แบบดั้งเดิม: อาจใช้เวลาสัป ดาห์ถึงเดือน เนื่องจากขั้นตอนเคลมสินค้า
    • พาราเมตริก: ปรกติภายในไม่กี่วันหรือชั่วโมงหลังเหตุการณ์
  • ระดับของ การปรับแต่ง:

    • แบบ ดั้งเดิม: ปรับแต่งได้สูงตามรายบุคคลและสถานการณ์เฉพาะตัว
      • พารามิเตอร์ิก*: ใช้มาตรฐานตัวชี้วัด ลดระดับส่วนตัวแต่สามารถปรับใช้ได้ในวง กว้าง

ข้อดีของประกัน พารามิเตอร์ิก

หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญที่สุดคือ ความรวเร็ว เนื่องจากเมื่อเงื่อนไขตรง ก็สามารถปล่อยเบี้ยได้ทันที ทำให้ผู้เอาประโยชน์ได้รับทุนเร็วขึ้น โดยเฉ especially ในช่วงฉุกเฉิน เช่น ภัยธรรมชาติ ที่เงินสดทันทีช่วยฟื้นฟูได้ นอกจากนี้ เนื่องจาก payouts ขึ้นอยู่กับมาตรฐานวัดผลซึ่งเป็นตัวเลข จึงมีแนวโน้มที่จะโปร่งใสมากกว่า รวมทั้งสามารถนำไปปรับใช้ในหลายภาคส่วน ตั้งแต่ภัยธรรมชาติส่งผลต่อภาคเกษตร ไปจนถึงภัยไซเบอร์ ทำให้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ ความเสี่ยงหลากหลาย ด้วยเทคนิค เทคโนโลยี เช่น IoT ที่ช่วยเพิ่มแม่นยำในการติดตามเหตุการณ์ซึ่งเป็น trigger สำหรับ payout ได้ดีขึ้นอีกด้วย

ความ ท้าทายเมื่อเปรียบเทียบ กับโมเดล แบบ ดั้ง เดิม

แม้ว่าจะมีข้อดี แต่ก็ยังพบว่าประ กัน พารามิ ต ริก มี ค วาม ท้า ย หลัก ๆ ที่ ส่ง ผล ต่อ การ ยอม รับ อย่างแพร่หลาย ได้แก่:

  1. ข้อมูลซับซ้อน: ต้องใช้อุปกรณ์ เก็บข้อมูลขั้นสูง เพื่อรองรับ การติดตาม แบบ เรีย ล ไ ท ม์ ซึ่งค่า ใช้ จ่าย สูง และบางแห่งก็ไม่สะ ดวก
  2. เลือก เกณฑ์ผิด: การตั้งค่าขั้นต่ำ/สูง ให้เหมาะสม ต้องเข้าใจดี มิฉะนั้น อาจเกิด Trigger ผิด หรือ payouts เกินจำเป็น
  3. Mismatch กับ ความ สู ญ เสีย จริง: เนื่องจาก จ่าย ตาม เหตุการณ์ ไม่ใช่ ตาม ค่ า เสีย จริง ซึ่ง อาจ แตก ต่าง กัน มาก ผู้ เอาประ กัน อาจ ได้ เงิน น้อย หรือมากไปกว่า สถานะ จริง ของเขาเอง
  4. ข้อควร ระวั ง ทาง กฎหมาย: เมื่อ โม เด ล นี้ ได้ รับ ความนิยม ก็ จำ เป็น ต้อง ปฏิบัติ ตาม กฎ ระ เบียบ ใหม่ ๆ ของ ประเทศ ต่าง ๆ รวม ถึง สหภาพยุโรป ที่กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่

แนวโน้มล่าสุด เพิ่มเติม จุด แตก ต่าง ให้ ชัดเจน ขึ้น

วิวัฒนาการด้าน เท ค โน โล ยี ได้ ช่วยสร้าง จุด แตก ต่าง ระหว่าง โม เด ล นี้ กับ แบบ ดั่ง เด ม ให้ ชัดเจน มากขึ้น:

  • เท ค โน โล ยี บล็อก เช น สมาร์ ท คอน แทร็กต์ (Smart Contract) ช่วย เพิ่ม โปร่งใส & ปลอดภัย
  • ภาพถ่ายดาวเทียม + Machine Learning ทำให้ วิเคราะห์ แม่น ยำ ขึ้น
  • ระบบ คริปโตเคอร์เร็นซี สำหรับ payouts เร็วกว่า ผ่าน ช่อง ทาง ออนไลน์ โดย ไม่ต้องผ่าน ธุ ร ก า ร ธนา ณ ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เท ค โน โล ยี เข้ามาช่วยเพิ่ม ประ สิทธิภาพ ใน กระ บวน การ พร้อมทั้งแก้ไข ข้อจำกัด ของวิธี แบบ เดียว กัน อีกด้วย

ผล กระ ทบบาง ส่วน ต่อ กลยุทธ์ การ จัดกา ร เ รี ย ง โครงสร้าง ความ เสี่ยง

ด้วย สภาพภูมิ อากาศ เปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ส่ง ผล ต่อ เหตุสุดวิสัย ทั้งใหญ่ ทั้งเล็กทั่วโลก — ตัวอย่างเช่น เหตุ เคราะห์ ครั้ง ใหญ่ ล่าสุด — แนวคิดเรื่อง พาธิคส์ (parametrics) ก็ กลับมา เป็น ที่ สนใจ มากขึ้น ในหมู่ บริษัท ประ กัน เพื่อ รองรับ เหตุ ฉุกเฉิน จาก ภัยธรรมชาติ อย่าง เฮอร์ ริ เค น หรือลุ่มน้ำ น้ำหลาก เป็นต้น

อีกทั้ง,

  • หน่วยงานรัฐ เริ่มนำระบบ พาธิคส์ เข้า ไป อยู่ ใน แผนอุทธาหกรรม ฉุกเฉิน ของ ประเทศ
  • บริษัท ประ กัน สำรวจ รูป แบบ ผสมผสาน ระหว่ า ง โม เด ล ดั่ง เด ม กับ พาธิคส์ เพื่อ เพิ่ม ศักยภาพ ใน การ ฟื้น ฟู หลัง เกิด วิ กฤ ต
  • นักลงทุน เริ่มสนใจ โอกาส ใหม่ ๆ จาก เครื่องมือ Risk Transfer รูป แบบ ใหม่ ๆ ที่ ใช้ เท ค โน โล ยี เข้ามาช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน Risk Management ให้แข็งแรงมากขึ้น

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า วงการพนันด้าน risk management อยู่ในช่วงพลิกโฉมครั้งใหญ่ ด้วยแนวคิดใหม่ๆ พร้อมทั้งเครื่องมือทันสมัยเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการบริหารจัดการภัยธรรมชาติและสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ อย่างเต็มรูปแบบ

สรุปแล้ว,

แม้ว่าประเภทประกันทั่วไปยังถือว่าจำเป็น เพราะมีคุณสมบัติส่วนตัวครบถ้วน รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับค่าความ สูญ เสีย — โดยเฉ especially เมื่อ จำ เป็น ต้อง ตรวจสอบ รายละเอียด ค่า เสีย จริง — แต่ก็ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับระบบบริหารจัดแจง “Risks” ด้วยวิธีใหม่ๆ ผ่าน automation ตามมาตรฐาน ตัวเลข สามารถเร่งสปีดตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้รวบรัดมากขึ้น ทั้งยังสะท้อนแนวโน้มเข้าสู่ยุคนิยมเทคนิค Digital & Data-driven ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับผลกระทบรุนแรง จาก Climate Change ได้ดีขึ้นอีกด้วย

13
0
0
0
Background
Avatar

Lo

2025-05-14 12:06

ประกันพารามิตรแตกต่างจากรูปแบบที่เป็นที่นิยมอย่างไร?

ความแตกต่างระหว่างประกันพาราเมตริกกับแบบดั้งเดิม

การเข้าใจความแตกต่างหลักระหว่างประกันพาราเมตริกและประกันแบบดั้งเดิมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงสมัยใหม่ แม้ว่าทั้งสองแบบจะมีเป้าหมายเพื่อปกป้องบุคคลและองค์กรจากความสูญเสียทางการเงิน แต่กลไก กระบวนการจ่ายเงิน และหลักการพื้นฐานของแต่ละแบบมีความแตกต่างอย่างมาก บทความนี้จะสำรวจข้อแตกต่างเหล่านี้เพื่อให้ภาพรวมที่ชัดเจนว่าประกันพาราเมตริกกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างไร

ประกันแบบดั้งเดิมคืออะไร?

ประกันแบบดั้งเดิมดำเนินงานบนโมเดลเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะยื่นคำร้องเมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญเสีย จากนั้นบริษัทประกันจะทำการตรวจสอบความถูกต้องของคำร้อง กำหนดขอบเขตของความเสียหาย และคำนวณค่าชดเชยตามนั้น กระบวนการนี้มักเกี่ยวข้องกับการสอบสวนรายละเอียด เอกสารประกอบ และบางครั้งอาจใช้เวลานานก่อนที่จะจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่น ประกันทรัพย์สินสำหรับไฟไหม้ หรือประกันรถยนต์สำหรับอุบัติเหตุ

เป้าหมายหลักคือ การชำระคืนตามจำนวนจริงของความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งให้บริการครอบคลุมเฉพาะบุคคลตามสถานการณ์ แต่ก็สามารถใช้เวลานานเนื่องจากกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อมูล

วิธีทำงานของประกันพาราเมตริก

ในทางตรงข้าม ประกันพาราเมตริกนำเสนอแนวทางที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ซึ่งตั้งอยู่บนเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า แทนที่จะขึ้นอยู่กับความเสียหายจริง เช่น ลมแรงเกิน 100 ไมล์ต่อชั่วโมงในช่วงเฮอร์ริเคน หรือน้ำท่วมสูงถึงระดับหนึ่ง ระบบนี้จ่ายเงินเมื่อเงื่อนไขหรือเกณฑ์เฉพาะถูกกระทำ—โดยไม่สนใจว่าความเสียหายจริงเป็นเท่าใด

กลไกนี้อาศัยเทคโนโลยีในการรวบรวมข้อมูล เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม เซ็นเซอร์ IoT และโมเดลสภาพอากาศ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เมื่อเหตุการณ์ตรงตามเกณฑ์เหล่านี้ การจ่ายเงินจะถูกเริ่มต้นโดยอัตโนมัติผ่านสมาร์ทคอนแทร็กต์หรือกระบวนการอัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอดูผลกระทบด้านความเสียหาย

ความแตกต่างสำคัญระหว่างประกันพาราเมตริกและแบบดั้งเดิม

  • กลไกเปิดใช้งาน:

    • แบบดั้งเดิม: อิงจากคำร้องที่ได้รับการตรวจสอบแล้วหลังจากเกิดเหตุ
    • พาราเมตริก: อิงจากเงื่อนไขหรือเกณฑ์ที่กำหนดยังไม่ได้รับผลกระทบ
  • กระบวนการเรียกร้อง:

    • แบบดั้งเดิม: ต้องผ่านขั้นตอนละเอียดและพิสูจน์ข้อมูล
    • พาราเมตริก: เป็นระบบอัตโนมัติและรวบรัด; ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ความเสียหาย
  • เวลาการจ่ายเงิน:

    • แบบดั้งเดิม: อาจใช้เวลาสัป ดาห์ถึงเดือน เนื่องจากขั้นตอนเคลมสินค้า
    • พาราเมตริก: ปรกติภายในไม่กี่วันหรือชั่วโมงหลังเหตุการณ์
  • ระดับของ การปรับแต่ง:

    • แบบ ดั้งเดิม: ปรับแต่งได้สูงตามรายบุคคลและสถานการณ์เฉพาะตัว
      • พารามิเตอร์ิก*: ใช้มาตรฐานตัวชี้วัด ลดระดับส่วนตัวแต่สามารถปรับใช้ได้ในวง กว้าง

ข้อดีของประกัน พารามิเตอร์ิก

หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญที่สุดคือ ความรวเร็ว เนื่องจากเมื่อเงื่อนไขตรง ก็สามารถปล่อยเบี้ยได้ทันที ทำให้ผู้เอาประโยชน์ได้รับทุนเร็วขึ้น โดยเฉ especially ในช่วงฉุกเฉิน เช่น ภัยธรรมชาติ ที่เงินสดทันทีช่วยฟื้นฟูได้ นอกจากนี้ เนื่องจาก payouts ขึ้นอยู่กับมาตรฐานวัดผลซึ่งเป็นตัวเลข จึงมีแนวโน้มที่จะโปร่งใสมากกว่า รวมทั้งสามารถนำไปปรับใช้ในหลายภาคส่วน ตั้งแต่ภัยธรรมชาติส่งผลต่อภาคเกษตร ไปจนถึงภัยไซเบอร์ ทำให้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ ความเสี่ยงหลากหลาย ด้วยเทคนิค เทคโนโลยี เช่น IoT ที่ช่วยเพิ่มแม่นยำในการติดตามเหตุการณ์ซึ่งเป็น trigger สำหรับ payout ได้ดีขึ้นอีกด้วย

ความ ท้าทายเมื่อเปรียบเทียบ กับโมเดล แบบ ดั้ง เดิม

แม้ว่าจะมีข้อดี แต่ก็ยังพบว่าประ กัน พารามิ ต ริก มี ค วาม ท้า ย หลัก ๆ ที่ ส่ง ผล ต่อ การ ยอม รับ อย่างแพร่หลาย ได้แก่:

  1. ข้อมูลซับซ้อน: ต้องใช้อุปกรณ์ เก็บข้อมูลขั้นสูง เพื่อรองรับ การติดตาม แบบ เรีย ล ไ ท ม์ ซึ่งค่า ใช้ จ่าย สูง และบางแห่งก็ไม่สะ ดวก
  2. เลือก เกณฑ์ผิด: การตั้งค่าขั้นต่ำ/สูง ให้เหมาะสม ต้องเข้าใจดี มิฉะนั้น อาจเกิด Trigger ผิด หรือ payouts เกินจำเป็น
  3. Mismatch กับ ความ สู ญ เสีย จริง: เนื่องจาก จ่าย ตาม เหตุการณ์ ไม่ใช่ ตาม ค่ า เสีย จริง ซึ่ง อาจ แตก ต่าง กัน มาก ผู้ เอาประ กัน อาจ ได้ เงิน น้อย หรือมากไปกว่า สถานะ จริง ของเขาเอง
  4. ข้อควร ระวั ง ทาง กฎหมาย: เมื่อ โม เด ล นี้ ได้ รับ ความนิยม ก็ จำ เป็น ต้อง ปฏิบัติ ตาม กฎ ระ เบียบ ใหม่ ๆ ของ ประเทศ ต่าง ๆ รวม ถึง สหภาพยุโรป ที่กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่

แนวโน้มล่าสุด เพิ่มเติม จุด แตก ต่าง ให้ ชัดเจน ขึ้น

วิวัฒนาการด้าน เท ค โน โล ยี ได้ ช่วยสร้าง จุด แตก ต่าง ระหว่าง โม เด ล นี้ กับ แบบ ดั่ง เด ม ให้ ชัดเจน มากขึ้น:

  • เท ค โน โล ยี บล็อก เช น สมาร์ ท คอน แทร็กต์ (Smart Contract) ช่วย เพิ่ม โปร่งใส & ปลอดภัย
  • ภาพถ่ายดาวเทียม + Machine Learning ทำให้ วิเคราะห์ แม่น ยำ ขึ้น
  • ระบบ คริปโตเคอร์เร็นซี สำหรับ payouts เร็วกว่า ผ่าน ช่อง ทาง ออนไลน์ โดย ไม่ต้องผ่าน ธุ ร ก า ร ธนา ณ ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เท ค โน โล ยี เข้ามาช่วยเพิ่ม ประ สิทธิภาพ ใน กระ บวน การ พร้อมทั้งแก้ไข ข้อจำกัด ของวิธี แบบ เดียว กัน อีกด้วย

ผล กระ ทบบาง ส่วน ต่อ กลยุทธ์ การ จัดกา ร เ รี ย ง โครงสร้าง ความ เสี่ยง

ด้วย สภาพภูมิ อากาศ เปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ส่ง ผล ต่อ เหตุสุดวิสัย ทั้งใหญ่ ทั้งเล็กทั่วโลก — ตัวอย่างเช่น เหตุ เคราะห์ ครั้ง ใหญ่ ล่าสุด — แนวคิดเรื่อง พาธิคส์ (parametrics) ก็ กลับมา เป็น ที่ สนใจ มากขึ้น ในหมู่ บริษัท ประ กัน เพื่อ รองรับ เหตุ ฉุกเฉิน จาก ภัยธรรมชาติ อย่าง เฮอร์ ริ เค น หรือลุ่มน้ำ น้ำหลาก เป็นต้น

อีกทั้ง,

  • หน่วยงานรัฐ เริ่มนำระบบ พาธิคส์ เข้า ไป อยู่ ใน แผนอุทธาหกรรม ฉุกเฉิน ของ ประเทศ
  • บริษัท ประ กัน สำรวจ รูป แบบ ผสมผสาน ระหว่ า ง โม เด ล ดั่ง เด ม กับ พาธิคส์ เพื่อ เพิ่ม ศักยภาพ ใน การ ฟื้น ฟู หลัง เกิด วิ กฤ ต
  • นักลงทุน เริ่มสนใจ โอกาส ใหม่ ๆ จาก เครื่องมือ Risk Transfer รูป แบบ ใหม่ ๆ ที่ ใช้ เท ค โน โล ยี เข้ามาช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน Risk Management ให้แข็งแรงมากขึ้น

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า วงการพนันด้าน risk management อยู่ในช่วงพลิกโฉมครั้งใหญ่ ด้วยแนวคิดใหม่ๆ พร้อมทั้งเครื่องมือทันสมัยเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการบริหารจัดการภัยธรรมชาติและสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ อย่างเต็มรูปแบบ

สรุปแล้ว,

แม้ว่าประเภทประกันทั่วไปยังถือว่าจำเป็น เพราะมีคุณสมบัติส่วนตัวครบถ้วน รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับค่าความ สูญ เสีย — โดยเฉ especially เมื่อ จำ เป็น ต้อง ตรวจสอบ รายละเอียด ค่า เสีย จริง — แต่ก็ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับระบบบริหารจัดแจง “Risks” ด้วยวิธีใหม่ๆ ผ่าน automation ตามมาตรฐาน ตัวเลข สามารถเร่งสปีดตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้รวบรัดมากขึ้น ทั้งยังสะท้อนแนวโน้มเข้าสู่ยุคนิยมเทคนิค Digital & Data-driven ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับผลกระทบรุนแรง จาก Climate Change ได้ดีขึ้นอีกด้วย

JuCoin Square

คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข