คริปโตเคอเรนซีได้ปฏิวัติวงการการเงินใหม่ทั้งหมด เปิดโอกาสให้กับการลงทุนและนวัตกรรม แต่ก็มีความเสี่ยงจากกลโกงและแผนฉ้อฉลที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตอย่างรวดเร็ว การเข้าใจเทคนิคที่นิยมใช้โดยกลุ่มมิจฉาชีพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน เทรดเดอร์ และผู้เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล บทความนี้จะให้ภาพรวมของวิธีหลอกลวงในคริปโตเคอเรนซีที่แพร่หลาย พัฒนาการล่าสุด และคำแนะนำเชิงปฏิบัติในการป้องกันตัวเอง
กลยุทธ์ Pump-and-Dump เป็นหนึ่งในรูปแบบกลโกงเก่าแก่ที่สุดแต่ยังคงพบเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้สูงขึ้นโดยข้อมูลเท็จหรือคลุมเครือ—มักแพร่กระจายผ่านโซเชียลมีเดียหรือข่าวปลอม—to กระตุ้นความอยากซื้อ เมื่อราคาขึ้นสูงสุดจากความต้องการที่เกิดจาก hype กลุ่มมิจฉาชีพจะขายออกทำกำไร ทำให้ราคาตกลงอย่างรวดเร็วและทำให้นักลงทุนรายอื่นสูญเสียจำนวนมาก
กรณีล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์เหล่านี้พัฒนาขึ้นอย่างซับซ้อน เช่น ในรัฐอลาบามา มีบุคคลถูกตัดสินจำคุก 14 เดือน ฐานแฮ็กบัญชี Twitter ของ SEC (X) แล้วเผยแพร่ข่าวปลอมเพื่อควบคุมราคาบิทคอยน์ เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ pump-and-dump ยังคงพัฒนาไปพร้อมกับมาตรการด้านกฎหมาย แต่ก็ยังเป็นภัยคุกคามต่อเนื่อง นักลงทุนควรระวังเมื่อพบปรากฏการณ์ราคาเหวี่ยงขึ้นลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเชื่อถือได้ก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
Phishing ยังคงเป็นหนึ่งในวิธีหลักที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญจากผู้ใช้งานคริปโต การโจมตีประเภทนี้ส่วนใหญ่ส่งอีเมลหรือข้อความหลอกลวงดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย—เลียนแบบเว็บไซต์แลกเปลี่ยนคริปโต เช่น Coinbase หรือกระเป๋าเงินยอดนิยม—to หลอกให้ผู้ใช้งันเปิดเผยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือ private keys
ตัวอย่างเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 Coinbase ประสบเหตุฐานข้อมูลรั่วไหลเปิดเผยข้อมูลลูกค้า ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้แต่แพลตฟอร์มระดับแนวหน้าก็ยังเสี่ยงต่อภัย phishing ผู้โจมตีจะสร้างเท็มเพลตอีเมล์ปลอมพร้อม ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอม ที่ออกแบบมาเหมือนของจริง เมื่อเหยื่อใส่รายละเอียดบนเว็บไซต์เหล่านี้ แฮ็กเกอร์ก็สามารถเข้าถึงบัญชีได้ง่าย ๆ
คำแนะนำในการรับมือกับ phishing:
เรียนรู้เทคนิค phishing เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความปลอดภัยในโลกคริปโตเคอเรนซี
Rug pulls เป็นหนึ่งในกลโกงที่สร้างความเสียหายมากที่สุด โดยเฉพาะในชุมชน DeFi และ NFT ซึ่งโครงการต่าง ๆ มักไม่มีระบบตรวจสอบเข้มแข็ง ในกรณีนี้ นักพัฒนาจะโปรโมตกองทุนหรือ NFT ที่ดูดีแล้วจู่ ๆ ก็หนีหายหลังเก็บเงินนักลงทุน—แทบจะหายตัวไปโดยไม่ส่งสินค้าอะไรเลย
ตัวอย่างล่าสุดคือ Nike RTFKT NFT platform ปิดตัวลงภายใต้ข้อกล่าวหาเป็นส่วนหนึ่งของ scheme rug pull ที่หวังผลตอบแทนนักสะสมจำนวนมาก[4] แม้แบรนด์ดังระดับโลกดูเหมือนไม่เสี่ยง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช่องโหว่ ความเสี่ยงหลักอยู่ตรงโปรเจ็กต์ที่ไม่ได้รับรองและโปรโมตกำไรเร็ว โดยไม่เปิดเผยทีมงาน พื้นฐานด้านเทคนิค หรือโร้ดแม็ปของโครงการ นักลงทุนควรทำ Due Diligence อย่างละเอียด:
หลีกเลี่ยงลงทุนจำนวนมากในโปรเจ็กต์ที่ขาดเอกสารประกอบหรือหลักฐานสนับสนุน จนอาจสูญเสียเต็มจำนวนถ้าเกิด rug pull ขึ้นจริง ๆ
Crypto fraud รวมถึงกิจกรรมหลอกลวงต่าง ๆ เพื่อโน้มน้าวให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าคริปโตนั้นมีคุณค่า หรือละเมิดกฎระเบียบ โดย scammers มักโอ้อวดประโยชน์ของโปรเจ็กต์ พร้อมซ่อนความเสี่ยง หรือกล่าวอ้างใบอนุญาตทางกฎหมายผิด เพื่อชวนคนเข้าใจผิดแล้วนำเงินเข้าลักษณะต่างๆ[5]
สำนักงาน ก. ล.ต. (SEC) ได้ดำเนินคดีหลายกรณีเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณี Unicoin ซึ่งถูกฟ้องร้องว่ามีกระบวนการสร้างข้อกล่าวหาเท็จ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มราคา token อย่างผิดกฎหมาย เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงมาตราการด้าน regulation แต่ก็เตือนว่าไม่ใช่ทุกโปรเจ็กต์ที่จะไว้ใจได้—even หากประกาศว่าปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายแล้ว
คำเตือนสำหรับนักลงทุน:
แม้ว่าจะไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะคริปโต เคอร์เร็นซี แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มทั่วไปในการโจรมูลค่าทางเศษฐกิจ—social engineering เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นทุกวัน วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการจัดฉากเพื่อเอาข้อมูลสำคัญ เช่น private keys หรือ login credentials ผ่านวิธี impersonation เช่น แสร้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ support จาก exchange หรือตั้งสถานการณ์เร่งด่วนเพื่อบังคับเหยื่อดำเนิน actions ทันที[ ] ตัวอย่างเช่น:
บทเรียนคือ ต้องระวัง อย่าแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคู่กันไป ควรรู้จักวิธีตรวจสอบ identity ของคนอื่น และสังเกตร่องรอย manipulation ต่าง ๆ เช่น ความเร่งรีบ จู๊วจู๋จนเกินเหตุ [ ] เพราะมนุษย์คือช่องโหว่ใหญ่ที่สุด ถูกเอาเปรียบง่ายที่สุด ดังนั้น การศึกษาเรื่อง social engineering จึงช่วยลด vulnerability ได้มากที่สุด
เพื่อรักษาความปลอดภัย จำเป็นต้องมีมาตราการเชิงรับตั้งแต่ต้น:
เมื่อเข้าใจทั้ง เทคนิคทั่วไปตั้งแต่ pump-and-dump, phishing, rug pulls ไปจนถึง misinformation แล้วนำแนวทาง best practices มาใช้ คุณจะสามารถป้องกันทรัพย์สินดิจิทัลได้ดีขึ้น พร้อมทั้งช่วยสร้างพื้นฐานแห่ง trust ภายในระบบเศษฐกิจ crypto ทั้งหมดอีกด้วย
Keywords: กลโกงเทพคริปโต , pump-and-dump , phishing , rug pull , ฉ้อโก ง crypto , social engineering , ความปลอดภัยทรัพย์สิน ดิจิทัล
JCUSER-F1IIaxXA
2025-05-22 17:46
วิธีการหลอกลวงในด้านสกัมคริปโตที่พบบ่อยคืออะไรบ้างที่ควรระมัดระวัง?
คริปโตเคอเรนซีได้ปฏิวัติวงการการเงินใหม่ทั้งหมด เปิดโอกาสให้กับการลงทุนและนวัตกรรม แต่ก็มีความเสี่ยงจากกลโกงและแผนฉ้อฉลที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตอย่างรวดเร็ว การเข้าใจเทคนิคที่นิยมใช้โดยกลุ่มมิจฉาชีพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน เทรดเดอร์ และผู้เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล บทความนี้จะให้ภาพรวมของวิธีหลอกลวงในคริปโตเคอเรนซีที่แพร่หลาย พัฒนาการล่าสุด และคำแนะนำเชิงปฏิบัติในการป้องกันตัวเอง
กลยุทธ์ Pump-and-Dump เป็นหนึ่งในรูปแบบกลโกงเก่าแก่ที่สุดแต่ยังคงพบเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้สูงขึ้นโดยข้อมูลเท็จหรือคลุมเครือ—มักแพร่กระจายผ่านโซเชียลมีเดียหรือข่าวปลอม—to กระตุ้นความอยากซื้อ เมื่อราคาขึ้นสูงสุดจากความต้องการที่เกิดจาก hype กลุ่มมิจฉาชีพจะขายออกทำกำไร ทำให้ราคาตกลงอย่างรวดเร็วและทำให้นักลงทุนรายอื่นสูญเสียจำนวนมาก
กรณีล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากลยุทธ์เหล่านี้พัฒนาขึ้นอย่างซับซ้อน เช่น ในรัฐอลาบามา มีบุคคลถูกตัดสินจำคุก 14 เดือน ฐานแฮ็กบัญชี Twitter ของ SEC (X) แล้วเผยแพร่ข่าวปลอมเพื่อควบคุมราคาบิทคอยน์ เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ pump-and-dump ยังคงพัฒนาไปพร้อมกับมาตรการด้านกฎหมาย แต่ก็ยังเป็นภัยคุกคามต่อเนื่อง นักลงทุนควรระวังเมื่อพบปรากฏการณ์ราคาเหวี่ยงขึ้นลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลเชื่อถือได้ก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
Phishing ยังคงเป็นหนึ่งในวิธีหลักที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญจากผู้ใช้งานคริปโต การโจมตีประเภทนี้ส่วนใหญ่ส่งอีเมลหรือข้อความหลอกลวงดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย—เลียนแบบเว็บไซต์แลกเปลี่ยนคริปโต เช่น Coinbase หรือกระเป๋าเงินยอดนิยม—to หลอกให้ผู้ใช้งันเปิดเผยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือ private keys
ตัวอย่างเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 Coinbase ประสบเหตุฐานข้อมูลรั่วไหลเปิดเผยข้อมูลลูกค้า ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้แต่แพลตฟอร์มระดับแนวหน้าก็ยังเสี่ยงต่อภัย phishing ผู้โจมตีจะสร้างเท็มเพลตอีเมล์ปลอมพร้อม ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอม ที่ออกแบบมาเหมือนของจริง เมื่อเหยื่อใส่รายละเอียดบนเว็บไซต์เหล่านี้ แฮ็กเกอร์ก็สามารถเข้าถึงบัญชีได้ง่าย ๆ
คำแนะนำในการรับมือกับ phishing:
เรียนรู้เทคนิค phishing เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความปลอดภัยในโลกคริปโตเคอเรนซี
Rug pulls เป็นหนึ่งในกลโกงที่สร้างความเสียหายมากที่สุด โดยเฉพาะในชุมชน DeFi และ NFT ซึ่งโครงการต่าง ๆ มักไม่มีระบบตรวจสอบเข้มแข็ง ในกรณีนี้ นักพัฒนาจะโปรโมตกองทุนหรือ NFT ที่ดูดีแล้วจู่ ๆ ก็หนีหายหลังเก็บเงินนักลงทุน—แทบจะหายตัวไปโดยไม่ส่งสินค้าอะไรเลย
ตัวอย่างล่าสุดคือ Nike RTFKT NFT platform ปิดตัวลงภายใต้ข้อกล่าวหาเป็นส่วนหนึ่งของ scheme rug pull ที่หวังผลตอบแทนนักสะสมจำนวนมาก[4] แม้แบรนด์ดังระดับโลกดูเหมือนไม่เสี่ยง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช่องโหว่ ความเสี่ยงหลักอยู่ตรงโปรเจ็กต์ที่ไม่ได้รับรองและโปรโมตกำไรเร็ว โดยไม่เปิดเผยทีมงาน พื้นฐานด้านเทคนิค หรือโร้ดแม็ปของโครงการ นักลงทุนควรทำ Due Diligence อย่างละเอียด:
หลีกเลี่ยงลงทุนจำนวนมากในโปรเจ็กต์ที่ขาดเอกสารประกอบหรือหลักฐานสนับสนุน จนอาจสูญเสียเต็มจำนวนถ้าเกิด rug pull ขึ้นจริง ๆ
Crypto fraud รวมถึงกิจกรรมหลอกลวงต่าง ๆ เพื่อโน้มน้าวให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าคริปโตนั้นมีคุณค่า หรือละเมิดกฎระเบียบ โดย scammers มักโอ้อวดประโยชน์ของโปรเจ็กต์ พร้อมซ่อนความเสี่ยง หรือกล่าวอ้างใบอนุญาตทางกฎหมายผิด เพื่อชวนคนเข้าใจผิดแล้วนำเงินเข้าลักษณะต่างๆ[5]
สำนักงาน ก. ล.ต. (SEC) ได้ดำเนินคดีหลายกรณีเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณี Unicoin ซึ่งถูกฟ้องร้องว่ามีกระบวนการสร้างข้อกล่าวหาเท็จ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มราคา token อย่างผิดกฎหมาย เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงมาตราการด้าน regulation แต่ก็เตือนว่าไม่ใช่ทุกโปรเจ็กต์ที่จะไว้ใจได้—even หากประกาศว่าปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายแล้ว
คำเตือนสำหรับนักลงทุน:
แม้ว่าจะไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะคริปโต เคอร์เร็นซี แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มทั่วไปในการโจรมูลค่าทางเศษฐกิจ—social engineering เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นทุกวัน วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการจัดฉากเพื่อเอาข้อมูลสำคัญ เช่น private keys หรือ login credentials ผ่านวิธี impersonation เช่น แสร้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ support จาก exchange หรือตั้งสถานการณ์เร่งด่วนเพื่อบังคับเหยื่อดำเนิน actions ทันที[ ] ตัวอย่างเช่น:
บทเรียนคือ ต้องระวัง อย่าแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคู่กันไป ควรรู้จักวิธีตรวจสอบ identity ของคนอื่น และสังเกตร่องรอย manipulation ต่าง ๆ เช่น ความเร่งรีบ จู๊วจู๋จนเกินเหตุ [ ] เพราะมนุษย์คือช่องโหว่ใหญ่ที่สุด ถูกเอาเปรียบง่ายที่สุด ดังนั้น การศึกษาเรื่อง social engineering จึงช่วยลด vulnerability ได้มากที่สุด
เพื่อรักษาความปลอดภัย จำเป็นต้องมีมาตราการเชิงรับตั้งแต่ต้น:
เมื่อเข้าใจทั้ง เทคนิคทั่วไปตั้งแต่ pump-and-dump, phishing, rug pulls ไปจนถึง misinformation แล้วนำแนวทาง best practices มาใช้ คุณจะสามารถป้องกันทรัพย์สินดิจิทัลได้ดีขึ้น พร้อมทั้งช่วยสร้างพื้นฐานแห่ง trust ภายในระบบเศษฐกิจ crypto ทั้งหมดอีกด้วย
Keywords: กลโกงเทพคริปโต , pump-and-dump , phishing , rug pull , ฉ้อโก ง crypto , social engineering , ความปลอดภัยทรัพย์สิน ดิจิทัล
คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข