การเข้าใจความคิดเห็นของประชาชนและแนวโน้มอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในกลยุทธ์ดิจิทัลในหลายอุตสาหกรรม การวิเคราะห์ความรู้สึกทางสังคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประเมินอารมณ์ที่แสดงออกในเนื้อหาโซเชียลมีเดีย ช่วยให้ธุรกิจ นักลงทุน และนักนโยบายสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลประกอบ หลายแพลตฟอร์มหลักได้ผนวกหรือกำลังพัฒนาฟีเจอร์ที่ใช้ข้อมูลความรู้สึกทางสังคมเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ผู้ใช้และข้อมูลเชิงกลยุทธ์
Meta (เดิมคือ Facebook) ได้ก้าวหน้ามากขึ้นในการรวมการวิเคราะห์ความรู้สึกทางสังคม ด้วยการเปิดตัว Llama API ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อจดจำความชอบของผู้ใช้โดยวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศของ Meta รวมถึง Facebook, Instagram และ Messenger โดยอาศัยรายละเอียดโปรไฟล์และรูปแบบกิจกรรม การใช้งาน Llama API ช่วยให้แพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันเข้าใจแนวโน้มด้านอารมณ์ของผู้ใช้ได้ดีขึ้นตามเวลา
การผนวกนี้ช่วยให้สามารถส่งเนื้อหาเฉพาะบุคคลและโฆษณาที่ตรงเป้าหมายตามสถานะหรือความชอบด้านอารมณ์ที่คาดการณ์ไว้ เช่น หากปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้อ้างถึงหัวข้อหรือผลิตภัณฑ์บางอย่างในเชิงบวก Meta ก็สามารถปรับแต่งฟีดข่าวให้เหมาะสมได้ แม้ว่าจะเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพส่วนบุคคล แต่เทคโนโลยีนี้ยังเปิดโอกาสสำหรับการวิเคราะห์ความรู้สึกเชิงลึกมากขึ้น—ช่วยใหแบรนด์สามารถประเมินแนวโน้มประชาชนต่อแคมหรือติดเทรนด์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Google เปิดตัวแอป NotebookLM เป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอเครื่องมือจดบันทึกล่าสุดบนพื้นฐาน AI ที่อนาคตรวมข้อมูลเชิงความคิดเห็นจากโซเชียลมีเดียเข้ามาได้ ในขณะนี้ แอปนี้รองรับทั้ง Android และ iOS ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิจัยฉลาด สามารถรวบรวมสาระสำคัญจากหลายแหล่งข้อมูลได้ดีเยี่ยม ถึงแม้จะเน้นไปที่งานวิจัยโดยผ่าน NLP (Natural Language Processing) แต่ก็มีศักยภาพที่จะเพิ่มคุณสมบัติด้านการวิเคราะห์ความรู้สึกเข้าไปในอนาคต ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานไม่เพียงแต่เก็บรวบรวมข้อเท็จจริง แต่ยังเข้าใจน้ำเสียงทางอารมณ์เบื้องหลังบทความ คอมเมนต์ หรือคำพูดต่าง ๆ เพื่อบริบทเพิ่มเติมระหว่างทำงานวิจัย เช่น วิเคราะห์ตลาด หรือ งานวิชาการ
ในตลาดทุน โดยเฉพาะตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โซเชียลมีเดียถือเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อพฤติกรรมนักลงทุน เช่น CoinGecko และ CryptoSlate ได้ผนวกเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลเพื่อประเมินแนวโน้มตลาดรอบเหรียญหรือ Token ต่าง ๆ ด้วย การติดตามสนทนาใน Twitter, Reddit (โดยเฉพาะ r/CryptoCurrency), กลุ่ม Telegram และชุมชนออนไลน์อื่น ๆ ทำให้แพลตฟอร์มนั้นๆ วิเคราะห์คำพูดทั้งด้านบวกและด้านลบ เพื่อทำนายราคาที่จะเกิดขึ้น หรือค้นหาเทรนด์ใหม่ก่อนที่จะสะท้อนออกมาในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจแบบเดิม ข้อมูลเหล่านี้ช่วยเสริมกระบวนการตัดสินใจ ลดความเสี่ยง จากภาวะตลาดผันผวนอย่างรวดเร็วอีกด้วย
Beyond แพลตฟอร์มหรือบริษัทใหญ่ เช่น Meta กับ Google บริษัทอื่นก็เริ่มทดลองนำ AI ขั้นสูงเข้ามาใช้งานร่วมกับความคิดเห็นบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น:
แนวดังกล่าวสะท้อนว่า เทคโนโลยี AI จะถูกฝังอยู่กับชีวิตประจำวันที่มากขึ้น ทั้งในการสนทนา แอปฯ AR ฯ ลฯ ให้เราได้รับสัมผัสกับโลกแห่งอินเตอร์เฟซแห่งมนุษย์-เครื่องจักรมากกว่าเคย
วิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคนิคเหล่านี้ ย้ำเตือนว่าพื้นที่นี้กำลังเติบโตอย่างแข็งขัน:
ทั้งหมดสะท้อนว่า อุตสาหกรรมเริ่มรับทราบแล้วว่า การเข้าใจ “มนุษย์” ผ่านโลกออนไลน์ ไม่เพียงแต่สร้างข้อได้เปรียบร้านค้า ตลาดหุ้น หรืองานบริการลูกค้า แต่ยังส่งผลต่อวงการเมือง วิทยาศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
แม้ว่านี่คือช่วงเวลาของวิวัฒนาการขั้นสูง แต่ก็ต้องเผชิญกับคำถามสำคัญ:
แก้ไขโจทย์เหล่านี้ต้องร่วมมือกันระหว่าง นักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย ผู้นำองค์กร เพื่อสร้างนิเทศน์แห่ง “AI” ที่รับผิดชอบต่อทุกฝ่าย
เมื่อ AI ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ — จาก Meta (Llama API), Google (NotebookLM), Apple (AR glasses)— โอกาสสำหรับตรวจจับระดับละเอียดของ “อารมณ์” ก็ขยายใหญ่โต เทียบไม่ได้เลยที่จะไม่เห็นว่า เทคโนโลยีเหล่านี้จะไม่เพียงแต่เข้าใจสิ่งที่คนพูด แต่ยังอ่าน “หัวอก” เบื้องหลังคำพูดยิ่งกว่า นี่คือหัวใจสำคัญสำหรับเทคนิคฉลาดเอาไว้ตอบสนองด้วย empathy จริงแท้
พร้อมกันนั้น แนวยึดถือหลักจริยะธรรม จะเป็นเข็มนำกำหนดยูนิติกฎเกณฑ์รักษาความเป็นส่วนตัว ไม่ลดละ innovation นักลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ จะหันมาใช้ metrics ด้าน social sentiment ผสมอยู่ทุกพื้นที่ ตั้งแต่ Messaging Apps ไปจนถึง Search Engines ไปจนถึง AR experiences แบบ immersive เพื่อตรวจสอบแนวนโยบายก่อนที่จะเกิดปรากฏการณ์เต็มรูปแบบ
ถ้าเราติดตามข่าวสารเหล่านี้ แล้วเข้าใจทั้งศักยภาพและข้อจำกัด คุณก็พร้อมรับมือ ไม่ว่าจะดูแลชื่อเสียงแบรนด์ วิเคราะห์แนวดิ่ง Predictive analytics หรือนำนโยบายมาใช้ — รวมทั้งเดินผ่านโลก digital ที่เต็มไปด้วยสีแดง เขียว เห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น
kai
2025-05-26 17:48
แพลตฟอร์มใดบ้างที่รวมความรู้สึกทางสังคม?
การเข้าใจความคิดเห็นของประชาชนและแนวโน้มอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในกลยุทธ์ดิจิทัลในหลายอุตสาหกรรม การวิเคราะห์ความรู้สึกทางสังคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประเมินอารมณ์ที่แสดงออกในเนื้อหาโซเชียลมีเดีย ช่วยให้ธุรกิจ นักลงทุน และนักนโยบายสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลประกอบ หลายแพลตฟอร์มหลักได้ผนวกหรือกำลังพัฒนาฟีเจอร์ที่ใช้ข้อมูลความรู้สึกทางสังคมเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ผู้ใช้และข้อมูลเชิงกลยุทธ์
Meta (เดิมคือ Facebook) ได้ก้าวหน้ามากขึ้นในการรวมการวิเคราะห์ความรู้สึกทางสังคม ด้วยการเปิดตัว Llama API ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อจดจำความชอบของผู้ใช้โดยวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศของ Meta รวมถึง Facebook, Instagram และ Messenger โดยอาศัยรายละเอียดโปรไฟล์และรูปแบบกิจกรรม การใช้งาน Llama API ช่วยให้แพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันเข้าใจแนวโน้มด้านอารมณ์ของผู้ใช้ได้ดีขึ้นตามเวลา
การผนวกนี้ช่วยให้สามารถส่งเนื้อหาเฉพาะบุคคลและโฆษณาที่ตรงเป้าหมายตามสถานะหรือความชอบด้านอารมณ์ที่คาดการณ์ไว้ เช่น หากปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้อ้างถึงหัวข้อหรือผลิตภัณฑ์บางอย่างในเชิงบวก Meta ก็สามารถปรับแต่งฟีดข่าวให้เหมาะสมได้ แม้ว่าจะเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพส่วนบุคคล แต่เทคโนโลยีนี้ยังเปิดโอกาสสำหรับการวิเคราะห์ความรู้สึกเชิงลึกมากขึ้น—ช่วยใหแบรนด์สามารถประเมินแนวโน้มประชาชนต่อแคมหรือติดเทรนด์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Google เปิดตัวแอป NotebookLM เป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอเครื่องมือจดบันทึกล่าสุดบนพื้นฐาน AI ที่อนาคตรวมข้อมูลเชิงความคิดเห็นจากโซเชียลมีเดียเข้ามาได้ ในขณะนี้ แอปนี้รองรับทั้ง Android และ iOS ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิจัยฉลาด สามารถรวบรวมสาระสำคัญจากหลายแหล่งข้อมูลได้ดีเยี่ยม ถึงแม้จะเน้นไปที่งานวิจัยโดยผ่าน NLP (Natural Language Processing) แต่ก็มีศักยภาพที่จะเพิ่มคุณสมบัติด้านการวิเคราะห์ความรู้สึกเข้าไปในอนาคต ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานไม่เพียงแต่เก็บรวบรวมข้อเท็จจริง แต่ยังเข้าใจน้ำเสียงทางอารมณ์เบื้องหลังบทความ คอมเมนต์ หรือคำพูดต่าง ๆ เพื่อบริบทเพิ่มเติมระหว่างทำงานวิจัย เช่น วิเคราะห์ตลาด หรือ งานวิชาการ
ในตลาดทุน โดยเฉพาะตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โซเชียลมีเดียถือเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อพฤติกรรมนักลงทุน เช่น CoinGecko และ CryptoSlate ได้ผนวกเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลเพื่อประเมินแนวโน้มตลาดรอบเหรียญหรือ Token ต่าง ๆ ด้วย การติดตามสนทนาใน Twitter, Reddit (โดยเฉพาะ r/CryptoCurrency), กลุ่ม Telegram และชุมชนออนไลน์อื่น ๆ ทำให้แพลตฟอร์มนั้นๆ วิเคราะห์คำพูดทั้งด้านบวกและด้านลบ เพื่อทำนายราคาที่จะเกิดขึ้น หรือค้นหาเทรนด์ใหม่ก่อนที่จะสะท้อนออกมาในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจแบบเดิม ข้อมูลเหล่านี้ช่วยเสริมกระบวนการตัดสินใจ ลดความเสี่ยง จากภาวะตลาดผันผวนอย่างรวดเร็วอีกด้วย
Beyond แพลตฟอร์มหรือบริษัทใหญ่ เช่น Meta กับ Google บริษัทอื่นก็เริ่มทดลองนำ AI ขั้นสูงเข้ามาใช้งานร่วมกับความคิดเห็นบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น:
แนวดังกล่าวสะท้อนว่า เทคโนโลยี AI จะถูกฝังอยู่กับชีวิตประจำวันที่มากขึ้น ทั้งในการสนทนา แอปฯ AR ฯ ลฯ ให้เราได้รับสัมผัสกับโลกแห่งอินเตอร์เฟซแห่งมนุษย์-เครื่องจักรมากกว่าเคย
วิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเทคนิคเหล่านี้ ย้ำเตือนว่าพื้นที่นี้กำลังเติบโตอย่างแข็งขัน:
ทั้งหมดสะท้อนว่า อุตสาหกรรมเริ่มรับทราบแล้วว่า การเข้าใจ “มนุษย์” ผ่านโลกออนไลน์ ไม่เพียงแต่สร้างข้อได้เปรียบร้านค้า ตลาดหุ้น หรืองานบริการลูกค้า แต่ยังส่งผลต่อวงการเมือง วิทยาศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
แม้ว่านี่คือช่วงเวลาของวิวัฒนาการขั้นสูง แต่ก็ต้องเผชิญกับคำถามสำคัญ:
แก้ไขโจทย์เหล่านี้ต้องร่วมมือกันระหว่าง นักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย ผู้นำองค์กร เพื่อสร้างนิเทศน์แห่ง “AI” ที่รับผิดชอบต่อทุกฝ่าย
เมื่อ AI ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ — จาก Meta (Llama API), Google (NotebookLM), Apple (AR glasses)— โอกาสสำหรับตรวจจับระดับละเอียดของ “อารมณ์” ก็ขยายใหญ่โต เทียบไม่ได้เลยที่จะไม่เห็นว่า เทคโนโลยีเหล่านี้จะไม่เพียงแต่เข้าใจสิ่งที่คนพูด แต่ยังอ่าน “หัวอก” เบื้องหลังคำพูดยิ่งกว่า นี่คือหัวใจสำคัญสำหรับเทคนิคฉลาดเอาไว้ตอบสนองด้วย empathy จริงแท้
พร้อมกันนั้น แนวยึดถือหลักจริยะธรรม จะเป็นเข็มนำกำหนดยูนิติกฎเกณฑ์รักษาความเป็นส่วนตัว ไม่ลดละ innovation นักลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ จะหันมาใช้ metrics ด้าน social sentiment ผสมอยู่ทุกพื้นที่ ตั้งแต่ Messaging Apps ไปจนถึง Search Engines ไปจนถึง AR experiences แบบ immersive เพื่อตรวจสอบแนวนโยบายก่อนที่จะเกิดปรากฏการณ์เต็มรูปแบบ
ถ้าเราติดตามข่าวสารเหล่านี้ แล้วเข้าใจทั้งศักยภาพและข้อจำกัด คุณก็พร้อมรับมือ ไม่ว่าจะดูแลชื่อเสียงแบรนด์ วิเคราะห์แนวดิ่ง Predictive analytics หรือนำนโยบายมาใช้ — รวมทั้งเดินผ่านโลก digital ที่เต็มไปด้วยสีแดง เขียว เห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น
คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข